วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

พีวิวเบา ๆ ไปกับ Plantronics M20 Bluetooth คู่หู ที่อยู่กับคุณทั้งวัน

 พีวิวเบา ๆ ไปกับ Plantronics M20 Bluetooth คู่หู ที่อยู่กับคุณทั้งวัน

Plantronics M20
หูฟังบลูทูธที่จะอยู่เป็นเพื่อนสนทนากับคุณได้ตลอดทั้งวัน ด้วยบลูทูธซอฟท์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุด v3.0 ที่เพิ่มประสิทธิภาพการรับส่งสัญญาณและช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ ให้คุณได้รายงานตัวกับเพื่อนฝูงทีมงานจนครบหมดทุกคน แบบยาวนานต่อเนื่องถึง 11 ชั่วโมง พร้อมด้วยคุณภาพเสียงที่คมชัด และระบบเสียงพูดเตือนที่ช่วยให้ชีวิตยึดติด 3G ของคุณสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น
Product Features
  •     Bluetooth Version v3.0 สปีดเร็วขึ้นกว่าเดิม 8 เท่าตัว
  •     คุณภาพเสียงคมชัด ตัดเสียงลม และ ตัดเสียงรบกวนในระบบดิจิตอล
  •     หมดกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดกลางคัน ด้วย Bluetooth Battery Meter บนหน้าจอ iPhone
  •     ระบบเปิด-ปิดแบบ slide switch สะดวกประหยัดพลังงาน
  •     Information Voice alerts ระบบเสียงพูดเตือน ระยะเวลาสนทนา, แบตเตอรี่อ่อน, ระดับเสียงสูงสุด ฯลฯ
  •     อิสระในการเชื่อมต่อสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์บลูทูธหลักได้พร้อมกันถึง 2 อุปกรณ์
  •     สนทนาต่อเนื่อง 11 ชั่วโมง เปิดรอรับสาย 16 วัน
  •     ระบบโทรทวนซ้ำหมายเลขสุดท้าย, ระบบโทรออกด้วยเสียง
  •     รับประกัน 1 ปี
เกริ่นกันมาเยอะละ เราลองไปดูพีวิวเบา ๆ ของ Plantronics M20 กันดีกว่า ส่วนราคานั้น Plantronics M20 เปิดตัวออกมาที่ ราคาเบาๆ เพียง 1,690 บาท
Plantronics M20 นั้นตัวหู ฟังเป็นพลาสติกทั้งตัว น้ำหนักค่อนข้างเบาถูกใจเลยละ (แต่ตัวด้านบนสุดหากมองผ่าน ๆ มันเหมือนแมลงสาบดีนะ) ตัววัสดุดูแข็งแรงทนทานมาก และก็ตามแบบสไตล์หูฟัง Bluetooth ทั่วไปคือ มันไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ภายในได้ การใช้งาน Plantronics M20 นั้นเราสามารถสวมใส่ยัดเข้าไปในรูหูได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าจะหลุด เพราะเมื่อเวลาสวมเข้าในรูหูแล้วจะรู้สึกว่ามันแน่นมาก การออกแบบตัวหูฟังนี้ ทำออกมารับกับสรีระ ของหูผู้ใช้ดีมาก เพราะมีส่วนโค้งเข้ากระชับรูหู ทำให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
ปุ่มใหญ่ด้านซ้ายที่เห็นในภาพคือปุ่มสไลด์ควบคุมการ เปิด/ปิดเครื่อง
ปุ่มใหญ่ด้านขวามือที่เห็นในภาพคือปุ่มควบคุมการทำงานของระดับเสียง
มีอุปกรณ์ต่อพ่วงคือช่องต่อ Micro USB
ด้านท้ายตัวหูฟังจะเป็นรูหรับต่อที่ชาร์จแบตเตอรี่ (อุปกรณ์ต่อพ่วงคือช่องต่อ Micro USB) ซึ่งการชาร์จหนึ่งครั้งหากชาร์จเต็มหูฟังนี้ จะใช้งาน สนทนาต่อเนื่อง 11 ชั่วโมง เปิดรอรับสาย 16 วันแต่จากการทดสอบ ยังไม่เคยคุยได้นานต่อเนื่องจนหมดแบตเตอรี่สักครั้ง
ตัว Ear Bud ในรุ่นนี้จะค่อนข้างกระชับมากแม้หูแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน แต่ความรู้สึกในการสวมใส่ลองคุยเป็น ชั่วโมงก็ไม่รู้สึกว่ามันจะทำให้เกิดความรำคาญหรือเจ็บหูแต่อย่างใด ตัวซิลิโคนทำมาค่อนข้างนุ่มดี อันนี้คอนเฟริมเลยว่ารับรองใส่นานๆไม่เจ็บหูแน่นอน เพราะผมเองเคยมีประสบการณ์ในการทดสอบตัวหูฟังมาหลายรุ่น บางรุ่นคุณภาพตัวเครื่องดีมากแต่ใส่สัก 5 นาทีก็รู้สึกว่าเจ็บหูซะแล้ว
ในตำแหน่งของหูฟังจะมียางครอบป้องกันอันตรายต่อใบหูของเรา ส่วนสายคล้องหูนั้น ที่จริงไม่ต้องมามาก็ได้ (แต่อาจเตรียมพร้อมสำหรับใครที่กลัวว่ามันจะหลุดเวลาใช้งาน)เพราะน้ำหนักหู ฟังรุ่นนี้เบามากเลยทำให้ไม่รู้สึกหนักเวลาสวมใส่
การเริ่มจับคู่อุปกรณ์สามารถทำได้โดย กดปุ่มรับสายค้างไว้สัก 5-10 วินาที (กรณีนี้ขึ้นกับความสนัดของผู้ใช้งาน แต่ถ้าครั้งแรกทำได้ ครั้งต่อไปก็ง่ายขึ้นเหมือนรู้มือ) จนกว่าไฟจะแสดงสลับเป็นสี น้ำเงินและแดงสลับกัน หายคนกำลัง "งง" แน่นอนว่าปุ่มที่ว่านั้นอยู่ตรงไหน ปุ่มที่ว่านั้นจะอยู่ด้านบนตัวเครื่อง ที่ตรงตำแหน่งตัวสกรีนคำว่า  Plantronics
ในเครื่อง iPhone (กรณีนี้ใช้เครื่องไอโฟน 4 ในการทดสอบ)ให้ไปที่ Settings>> General>> bluetooth
สำหรับ Plantronics M20  ตัวนี้ทดลองใช้กับ iPhone การเชื่อมต่อทำงานได้ง่ายมาก เพราะไม่ต้องทำไรเพิ่มเติ่มเลย เปิดเครื่องให้มันมองเห็นกันก็ Connected ใช้งานได้เลย (สำหรับถ้าเครื่องรุ่นไหนถามหารหัสผ่านให้ใส่ 0000)
สรุปการใช้งาน
จากการทดสอบ Plantronics M20 นี้ ความรู้สึกส่วนตัวค่อนข้างชอบมันมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัสดุที่ใช้ หรือที่เด็ดคือด้วยน้ำ้หนักที่มีขนาดค้อนข้างเบา สำหรับสาว ๆ ช่วงแรก ๆ อาจจะใส่อยากหน่อย แต่ถ้าได้ทดลองใส่สัก 3-2 จะหลงรัก Plantronics M20 แน่นอน
สรุปโดยรวมๆแล้วหากจะซื้อหูฟัง Bluetooth ก็ขอแนะนำว่าให้ซื้อแบบมียี่ห้อหน่อยก็ดีนะ ไม่จำเป็นต้องเป็นยี่ห้อนี้ก็ได้ แต่อยากให้มองในระยะยาวยี่ห้อโนเนมบางตัวทดลอง หรือนำมาใช้งานระยะแรกประสิทธิภาพเทพมาก แต่ใช้ไปนาน ๆ เจอปัญหากวนใจมากมาย แบตเสื่อม พาสติกหนึบ ขายึดหัก เป็นต้น เลือกของมียี่ห้อหน่อยก็ดีนะสินค้าไอที แล้วเจอกันกับพีวิวรุ่นต่อไป!!
ขอขอบคุณ บริษัท System2000  สำหรับอุปกรณ์ในการทดสอบ

วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

ประสบการณ์หลัง ใช้งาน TRUE-H 3G

ประสบการณ์หลัง ใช้งาน TRUE-H 3G

หลังเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางทีมงานได้มีโอกาศเดินทางไปร่วมงานเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในขื่อชื่อ True Move H และมี(ของค่าย True )ตัวอักษรย่อยด้านล่างว่า CAT’s retailer เพื่อต่อยอดในการให้บริการ 3G HSPA เชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก ซึ่งสามารถใช้งานได้ในกรุ กรุงเทพฯ และอีก 16 จังหวัด




สำหรับเขตพื้นที่บริการ ที่ทาง TRUE-H  โชว์จุดเด่นสุดคือ 3G+  ความถี่ 850MHz โดยบริการให้ความเร็วระดับ HSPA+ ซึ่งสามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 42 Mbps  ครอบ คลุมทั่วทั้งกรุงเทพ (มีเครือข่าย3G กว่า 1770 เสา ทั่วกรุงเทพ)  และอีก 16 จังหวัดในบางเมืองของแต่ละจังหวัด  ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ อยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร ชลบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี เชียงใหม่ สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และกระบี่

ผลจากการได้ทดลองใช้เวลาเล่น TRUE-H 3G ในช่วงที่ผ่านมา (บริเวณกรุงเทพ) นับได้ว่าประทับใจผู้เขียนมาก

สามารถเล่นได้ทั้งที่บ้าน ย่านวัชรพล ซึ่งปกติผู้เขียนใช้ระบบ EAGE  เพราะสัญญาณของ 3G  ค่ายน้องอุ่นใจไปไม่ถึง  ปรากฎว่าแค่ก้าวข้ามกำแพงบ้านก็ไม่สามารถเล่นได้แล้ว  (จุดนี้  TRUE-H 3G ได้ใจไปเลย )

เอาเป็นว่าไปทดลองกันอีกที่ดีกว่า ตลาดนัดจตุจัต เด็ดสุดใจกลางเมืองเลย เพราะฉะนั้นเราจัดเลย 3 ค่ายใหญ่มาชนกันหน่อย (เล่นบนไอโฟน 4) ผลออกมาเจ็บครับ เพราะเบอร์ที่ผู้เขียนจ่ายเงินให้เดือนละ 839 ไม่รวมภาษีเล่นได้ห่วยที่สุดในสามโลก หมุนทั้งวัน ส่วนค่ายที่เค้าบอกว่าเป็นต่างด้าว ก็พอไหวนะ เล่นได้ ไม่เร็วมากแต่ก็ไม่ถึงกับทำให้ไมเกรนขึ้นเนื่องจากหมุนทั้งวัน ส่วนเจ้า TRUE-H 3G เด็ดสุด ดู youtube ได้เลยละ

คิดเอาเองละกัน ตอนนี้ผู้เขียนยังใช้ซิมทดลองของ  TRUE-H 3G  อยากทราบอะไรเพิ่มเติมสอบถามกันมาได้นะ

ปล. อยากจะบอกว่า บทความไม่ได้ตั้งใจชื่นชม TRUE-H 3G  ให้คุณเชื่อ แต่มันมาจากการใช้งานจริง ๆ ซึ่งทดลองมาแล้ว เลยอยากเอามาแชร์ให้เพื่อน ๆ ฟังกัน

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

Sanook! Mobile เปิดตัว Browser สุดเจ๋งในชื่อ Sanook! Browser

Sanook! Mobile  เปิดตัว Browser สุดเจ๋งในชื่อ Sanook! Browser
วันนี้ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการสักทีสำหรับ Browser ตัวใหม่ล่าสุดของทางทีมงาน Sanook! Mobile นั้นคือ Sanook! Browser (สนุก! เบราว์เซอร์) ที่ขอบอกว่าเจ๋งและอยากแนะนำ รับรองได้โดนแน่นอน ดังนั้นทางทีมงาน Hitech จึงขอเขียนถึง Browser ตัวใหม่ล่าสุดนี้กันหน่อย
Sanook! Browser
ทั้งนี้ Sanook! ได้เผยข้อมูลว่า Sanook! Browser (สนุก! เบราว์เซอร์) พร้อมมอบประสบการณ์การท่องเว็บที่เร็วกว่า ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการท่องอินเตอร์เน็ตได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยค้นหาข่าวสาร และข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจ อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
Sanook! Browser (สนุก! เบราว์เซอร์) นั้นมาพร้อมกับความสามารถเยอะแยะจนอธิบายไม่ถูก  แต่ที่ทางทีมงานลองเล่นและรู้สึกชอบมากที่สุดคงจะเป็นเรื่อง จัดวางเมนู ไอคอน ทำให้เข้าถึงเมนูได้ง่าย รวมถึงการบันทึกประวัติการใช้งาน อีกทั้ง สนุก!เบราเซอร์ ได้สรรหาบุ๊คมาร์คที่น่าสนใจมาให้คุณ ทำให้คุณสามารถท่องเว็บต่างๆ ได้ง่าย เพียงแค่คลิก และยังสามารถดาวน์โหลดไฟล์เก็บไว้ได้ ยังมีความสามารถอื่นๆ อีกมากมาย ที่ทำให้มือถือของคุณสามารถท่องเว็บได้อย่างสะดวกสบาย ให้คุณตามทันทุกสถานการณ์

ซึ่งประกอบไปด้วย Most Visited, Daily Life, Chat & Community, News,Entertainment, Sport, VDO & MediaSharing, Auto & Technology, Shoppong & Classified, Fanance & Banking และปิดท้ายด้วย Downlad ใครชอบเรื่องไหน เข้าไปอ่านได้เลย ไม่ต้องมาพิมพ์ url ให้วุ่นวายอีกต่อไป
เปิดหน้าต่างได้มากกว่า
จุดเด่นอีกอย่างคือสามารถแสดงหน้าต่างแบบย่อได้ 4 หน้าต่างภายในหน้าจอเดียว และสามารถเปิดได้สูงสุดถึง 32 หน้าต่าง ทำให้คุณสลับดูหน้าเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดายเหมือนกับท่องเว็บด้วยเครื่อง คอมพิวเตอร์ ทำให้คุณเปิดเว็บไซต์ได้ตามใจชอบ และเปลี่ยนไปยังเว็บไซต์ที่ต้องการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
การแสดงผลในที่มืด
การออกแบบที่เหมาะสมกับการใช้งานในที่มืด แม้คุณจะอยู่ในช่วงกลางคืนหรือที่ที่มีแสงน้อยก็สามารถใช้งานได้ด้วยแสงของ หน้าจอที่เหมาะสม ทำให้อ่านได้อย่างสบายตา ที่ทำให้ใครหลาย ๆ สามารถเปิดเครื่องเล่นได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแสงของไอโฟนจะไปรบกวนใคร!!
ดาวน์โหลด และการจัดเก็บเอกสารได้อย่างยอดเยี่ยม
ด้วย สนุก! เบราเซอร์ มีตัวช่วยในการจัดการการดาวน์โหลด ในเวลาที่คุณต้องการหยุดการดาวน์โหลด คุณก็สามารถหยุดได้ทันที และกลับมาดาวน์โหลดต่อได้ ช่วยให้คุณไม่ต้องกลับมาโหลดไฟล์ใหม่ทุกครั้งที่หลุดจากการเชื่อมต่อ
สามารถจัดการไฟล์ได้หลากหลาย
รองรับการดาวน์โหลดไฟล์ได้หลากหลายประเภท โดยสามารถ เปิดดู แก้ไข ลบหรือดาวน์โหลดเพิ่มเติม รวมถึงการล้างไฟล์เก่าทิ้งด้วย
1.เพื่อนๆ คนไหนสนใจ Download ได้ตาม link ข้างล่างเลยครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

เพื่อนๆ ที่ใช้ iPhone สามารถเข้าไป Download ได้ที่ Appstore แล้ว
ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนใช้ระบบ Android  สามารถเข้าไปโหลดกันได้ที่ Android Market กันได้เลยครับ

2. สามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ mobile.sanook.com/browser
เพียงเท่านี้คุณก็จะ “สนุก!” กันได้ทั้งวัน กับ Sanook! Browser (สนุก! เบราว์เซอร์) เทรนด์ใหม่ที่ทำให้ iPhone ของคุณมีชีวิตชีวาขึ้น แล้วคุณจะอยู่บนโลกอันแสนสนุกได้อย่างไม่มีเบื่อเลยทีเดียว แถมประหยัดค่าแพคเกจอินเตอร์เน็ต ด้วยเทคโนโลยีการบีบอัดข้อมูล และบุ๊คมาร์คเว็บไซต์สุดฮิตที่เ ตรียมไว้ให้คุณ อยากเข้าเว็บไหนก็ง่ายๆ แค่คลิก!
สามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ mobile.sanook.com

บทความโดย : GuruMobile @Sanook

HTC EVO 3D คลอดแล้วในเมืองไทย

HTC EVO 3D คลอดแล้วในเมืองไทย
วันนี้ทาง HTC ไทยทำการเปิดตัว  HTC EVO 3D  อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่ง HTC EVO 3D จะมาพร้อมรองรับเครือข่าย GSM

จุดเด่นของ  HTC EVO 3D นั้นเป็นรุ่นเดียวกับ Pyramid แต่รองรับเทคโนโลยี 3 มิติ ส่วน Spec อื่นๆของ HTC EVO 3D ก็คือ CPU Dual-Core 1.2 GHz และมี RAM 1GB พร้อมรัน Android 2.3

Gingerbread พร้อม HTC Sense ตัวเครื่องมีสัดส่วน 126x65x12.05 มม. และพกแบตมาขนาดใหญ่พอควรที่ 1730 mAh น้ำหนัก 170 กรัม แถมด้วย Port MHL (รวมทั้ง HDMI และ USB ไว้ด้วยกัน) มี Wi-Fi b/g/n, Bluetooth 3.0, รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ MicroSD Card

ซึ่งว่านับเป็นของใหม่ที่น่าสนใจสำหรับบ้านเรา เพราะปัจจุบันนั้นมือถือ 3D ซึ่งมีวางจำหน่ายในตลาดอย่างเป็นทางการนั้นมีแค่  LG Optimus 3D และอีกรุ่นก็คือ  HTC EVO 3D ซึ่งกำลังจะวางขายอย่างเป็นทางการในบ้านเราวันนี้ (8 กันยายน 2554)

HTC EVO 3D 3D view - 360° spin
ส่วนในเรื่องของราคาของ HTC EVO 3D นั้นคาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 19,900 บาท  (อ้างอิงจาก www.thaimobilecenter.com)

บทความโดย : GuruMobile @Sanook

วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

iPhone 5 ถูกเปิดให้จองอย่างลับ ๆ แล้ว

iPhone 5  ถูกเปิดให้จองอย่างลับ ๆ แล้ว

แม้จะมีสัญญาณหลายอย่างเกี่ยวกับ iPhone 5 ออกมาตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาก และคงไม่มีข่าวไหนน่าสนใจเท่ากับข่าวนี้อีกแล้ว

iPhone 5
ล่าสุดนั้นมีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ออกมาให้ข่าวว่าตอนนี้นั้น  T – Mobile ของประเทศเยอรมันได้เปิดให้ลูกค้ากลุ่มพิเศษจองเครื่องแล้ว โดยออกมาในรูปแบบของการให้ตั๋วเพื่อให้ลูกค้าถือไว้ และสามารถนำมารับเครื่องได้เลย

ซึ่งตัวเหล่านี้จะเสนอแก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้าน แต่ไมต้องการเครื่อง iPhone 3GS หรือ iPhone 4 และนอกจากนี้ทางทีมงานของแอปเปิ้ลได้เริ่มเทรนพนักงานเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียม ความพร้อมในเรื่องการปล่อย IOS 5 และ iCloud (ซึ่งวิธีแบบนี้บ้านเราก็ทำเหมือนกัน)

ในช่วงสุดสัปดาห์คาดว่าอุปกรณ์ที่จะเปิดตัวในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมคงจะมีข่าวหลุด ๆ ออกมาให้เราติดตามเรื่อย ๆ แน่นนอน
ที่มา : hitech.sanook.com

ส่องกล้อง มองมือถือใหม่ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase (ปลายกันยายน)

กลับมาประจำการ รายงานโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่อีกครั้ง กับมหกรรมโทรศัพท์มือถือครั้งใหญ่ส่งปลายปี ซึ่งจะจัดขึ้นภายในวันที่ 29 กันยายน – 2 ตุลาคม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ดูกันว่าจะมีโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตรุ่นไหนที่จะมาจำหน่ายในงาน ถ้าหากไม่จำหน่ายก็อาจจะมีให้จอง หรือให้ได้ลองเล่นกัน มีรุ่นไหนบ้างนั้น เรามาดูกัน

Nokia N9
หลังจากเปิดตัว Nokia N8 ที่ถือเป็นไฮไลท์ไปแล้วเมื่อต้นปี และเมื่อกลางปีที่ผ่านมาก็เรียกเสียงฮือฮาด้วยการเปิดตัว Nokia N9 ที่ปฏิวัติสมาร์ทโฟนของ Nokia ด้วยระบบปฏิบัติการ MEEGO รุ่นแรก ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 3.9 นิ้ว จอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียดสูง ทนรอยขีดข่วน ตัวเครื่องทำจากวัสดุโพลีคาร์บอเนทขึ้นรูปชิ้นเดียว จึงไม่มีรอยต่อให้ระคายมือ
นอกจากนี้ยังมีกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอระดับ HD หน่วยประมวลผลมีความเร็ว 1 GHz รุ่นแรกของ พร้อมตัวชิพประมวลผลภาพ 3D หน่วยความจำในตัว 16 GB มีเทคโนโลยี NFC ใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่างเช่นลำโพงไร้สาย Nokia Play 360 ตัวเครื่องรองรับความถี่ 3G ความเร็วสูงสุด 14.4 Mbps สำหรับรุ่นนี้ถ้ามาทันวางจำหน่ายในงานก็เตรียมเก็บเงินซื้อได้เลย


Nokia Oro
นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่เห็นมือถือสุดหรูจาก Nokia นับตั้งแต่ 8800 ที่มีออกมาในหลายเวอร์ชั่น ดึงดูดเงินในกระเป๋าไฮโซไปนักต่อนัก มาถึง Nokia Oro ที่มาในแบบของสมาร์ทโฟน Symbian Anna เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ตัวเครื่องบางส่วนทำจากทอง 18 กะรัต มาพร้อมชุดหูฟังไร้สายบลูทูธที่ทำจากวัสดุทอง 18 กะรัตด้วยเช่นกัน และบางส่วนยังเป็นสแตนเลส-สตีล หรูหราไร้ที่ติ อินเตอร์เฟสยังใช้ธีมที่เข้ากับสีทองของตัวเครื่อง ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเครื่องก็มีทั้งหน่วยความจำภายใน 8 GB เพิ่ม microSD ได้ หน้าจอ AMOLED แบบสัมผัส กล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอแบบ HD เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในระบบ 3G หรือ Wi-Fi แต่จะมีมาจำหน่ายทันในงานหรือไม่นั้น งานนี้ไฮโซกระเป๋าหนักต้องรอลุ้น



Nokia 500
Nokia 500 ที่ดูหน้าตาธรรมดาๆ แต่แฝงไปด้วยระบบปฏิบัติการ Symbian Anna อินเตอร์เฟสสวยงาม สั่งงานผ่านหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 3.2 นิ้ว อัตราส่วน 16:9 หน่วยความจำภายในขนาด 2 GB เพิ่ม microSD ได้อีกสูงสุด 32 GB จุดเด่นของรุ่นนี้เห็นจะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนฝาหลังสีจี๊ดได้ตามใจ เพราะแถมมาให้ในกล่องอีก 2 สี ถ่ายรูปด้วยกล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซลในระบบ Full focus หรือในแบบโฟกัสคงที่ ถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด VGA เชื่อมต่อระบบ 3G, Wi-Fi ระบบนำทาง GPS ครบครัน ส่วนราคายังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าไม่น่าจะเกินหมื่น ใครที่อยากได้สมาร์ทโฟนซิมเบี้ยนราคาประหยัดก็เตรียมตัวหยอดกระปุกรอไว้ได้ เลย


Nokia C5 5MP
สมาร์ทโฟนบาร์ไทป์ หรือรูปทรงแบบแท่งเคยปรากฎให้เห็นแล้วในช่วงที่ผ่านมา คราวนี้อัพเกรดตัวเองจาก 3 ล้านพิกเซลเป็น 5 ล้านพิกเซลตามชื่อรุ่น 5MP แต่ยังเป็นระบบโฟกัสแบบคงที่ ส่วนระบบปฏิบัติการยังคงเป็น Symbian เวอร์ชั่น 9.3 ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลความเร็ว 600 MHz ตัวเครื่องยังคงรองรับการเชื่อมต่อ 3G ระบบนำทาง GPS ถ้ายังคงชอบการใช้งานที่เป็นโทรศัพท์มือถือจริงๆ แต่ยังอยากได้ฟังก์ชั่นของสมาร์ทโฟนก็มีรุ่นนี้นี่แหละที่ตอบโจทย์


Apple iPad 2
มีวางจำหน่ายไปแล้วในบ้านเราสักพักใหญ่ๆ แต่สำหรับ Operator ในบ้านเราก็พึ่งจะมี True ที่นำเข้ามาจำหน่ายรายแรก สรรพคุณของ iPad 2 นั้นก็แทบไม่ต้องบรรยายมาก เพราะน่าจะรู้กันไปแล้ว จุดเด่นคงจะเป็นเรื่องของการปรับปรุง พัฒนาให้ดีขึ้นจาก iPad รุ่นแรก อย่างเช่นตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาลง บางขึ้น เร็วขึ้นด้วยหน่วยประมวลผลแบบ Dual-core ความเร็ว 1 GHz ระบบปฏิบัติการ iOS ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้ทั่วโลก อีกทั้งยังมีแอพพลิเคชั่นสนับสนุนอีกนับไม่ถ้วน แต่ขอบอกว่างานนี้ True คงอัดโปรโมชั่นแพ็คเก็จการใช้งานอินเตอร์เน็ต 3G อย่างหนักแน่นอน เตรียมเงินกระเป๋าให้พร้อมก็แล้วกัน


Samsung Galaxy R
จากที่เปิดจองไปแล้วเมื่องานคราวก่อนพร้อมโปรโมชั่นจัดหนักของ Samsung Galaxy S II มาถึง Galaxy S รุ่นแรกที่น่าจะถูกแทนที่ด้วย Galaxy R ที่น่าจะเปิดตัวด้วยราคาที่ถูกกว่า กับสเป็คที่ปรับลดลงมาเป็นซีพียูความเร็ว 1 GHz แบบ Dual-core พร้อมหน่วยประมวลผลภาพ 3D แยกต่างหาก หน้าจอสีสันสดใสสมจริงแบบ Super Clear LCD ครบครันด้วยมัลติมีเดียอย่างเช่นกล้อง 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอแบบ HD เปิดตัวด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3.3 ส่วนราคายังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าน่าจะไม่เกินหมื่นห้า



Samsung Galaxy Tab 10.1
Samsung Galaxy Tab 10.1 รุ่นนี้ก็เปิดจองในงานคราวที่แล้วเหมือนกัน แต่คราวนี้น่าจะมีจำหน่ายในงานแข่งกับ iPad 2 แน่นอน ด้วยขนาดหน้าจอถึง 10.1 นิ้ว กับน้ำหนักที่ถือว่าค่อนข้างเบาคือ 595 กรัม ใช้จอภาพ Crystal Clear แบบสัมผัส ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 3.1 Honeycomb ที่ถูกออกแบบมาให้สำหรับแท็บเล็ตโดยเฉพาะ หน่วยประมวลผลแบบ Dual core ความเร็ว 1 GHz น่าจะมีความเร็วเพียงพอกับแอพพลิเคชั่นที่จะมารองรับ

Samsung Galaxy Tab 10.1 ยังคงมีกล้องดิจิตอลมาให้ความละเอียดสูงถึง 3 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัสมา มีไฟแฟลชแบบ LED และยังถ่ายวิดีโอความละเอียดในระดับ HD 720p ความจุที่มีจำหน่ายในบ้านเราตอนนี้มีเพียง 16 GB มีช่องเสียบการ์ดหน่วยความจำแบบ รองรับสูงถึง 32 GB การเชื่อมต่อ ถือเป็นหัวใจสำคัญของแท็บเล็ตรุ่นใหม่ โดยที่ Samsung Galaxy Tab 10.1 รองรับ 3G ความเร็วสูงสุดถึง 21 Mbps รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi มาตรฐาน b/g/n

Samsung Galaxy Tab 8.9
หากคิดว่า 10.1 ใหญ่เกินไป ลองดูรุ่น 8.9 นิ้ว กับน้ำหนัก 470 กรัม น่าจะยังพอถือมือเดียวไหว ตัวเครื่องยังใช้ระบบปฏิบัติการ Android 3.0 Honeycomb ซึ่งออกแบบมาสำหรับแท็บเล็ตโดยเฉพาะ มีอินเตอร์เฟสที่ใช้สวยงาม และใช้งานง่ายกว่าเดิม มีให้เลือกทั้งความจุ 16, 32 และ 64 GB เพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB หน่วยประมวลผลความเร็ว 1 GHz แบบ Dual core เชื่อมต่อไร้สายครบครันทั้ง 3G, Wi-Fi ส่วนกล้องดิจิตอลความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส ถ่ายวิดีโอความละเอียด HD 720p

LG Optimus 3D
จากงานคราวก่อนมีให้ได้จับตัวเป็นๆ ในงาน หากใครได้สัมผัสเป็นต้องวางไม่ลงเพราะทึ่งกับการแสดงผลแบบ 3 มิติที่บอกได้คำเดียวว่าไม่มีใครเหมือน ทั้งการถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ เล่นเกมเป็นระบบ 3 มิติทั้งหมด       หน่วยประมวลผลแบบ Dual core ความเร็วไม่น้อยหน้าใคร 1 GHz มีหน่วยประมวลผลแบบ 3D ช่วยต่างหาก ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.2 ที่รออัพเกรดเป็น 2.3 ได้ แต่หากวางจำหน่ายในงานอาจจะเป็น 2.3 มาเลยก็ได้ ใครที่อยากลองของใหม่ด้วยสุดยอดสมาร์ทโฟน 3D รุ่นแรก บอกได้เลยว่าห้ามพลาด

LG Optimus White
ในเมื่อออก Optimus Black ไปแล้ว LG ก็เลยออกรุ่น Optimus White ให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย สเป็คโดยรวมแล้วยังคงคล้ายกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผลแบบ Single-core ความเร็ว 1 GHz พร้อมชิพประมวลผลภาพ 3D หน่วยความจำภายใน 2 GB เพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB จอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 4 นิ้วที่ให้ความคมชัดกว่าจอภาพทั่วไป ส่วนกล้องดิจิตอลความละเอียดมีมาให้ 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส ถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ HD 720p ระบบความบันเทิงมาเต็ม ทั้งเครื่องเล่นเพลง วิทยุ FM ในด้านการเชื่อมต่อก็ไม่ขาด ทั้ง 3G, Wi-Fi, บลูทูธ ระบบนำทาง GPS

LG Optimus Pro
สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ส่วนมากจะเป็นจอสัมผัสเสียส่วนใหญ่ หรือถ้าหากมีคีย์บอร์ดก็อาจจะซ่อนอยู่ด้านข้าง แต่ถ้าเป็น LG Optimus Pro รุ่นนี้มาเต็ม ไม่ต้องสไลด์ให้วุ่นวาย เพราะมีคีย์บอร์ดมาให้เลยในตัว จะเม้นท์ หรือแชทก็ไม่มีปัญหา รุ่นนี้มาพร้อมเวอร์ชั่น 2.3.3 หน่วยประมวลผลความเร็ว 800 MHz ที่ถือว่าไม่ขี่เหร่ กล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซล ถ่ายรูปหรือคลิปวิดีโอแบบขำๆ ระบบการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมาครบทั้ง 3G และ Wi-Fi มีระบบนำทาง GPS ที่ถือว่าเป็นมาตรฐาน ราคาเปิดตัวไม่น่าจะแรง รอดูตัวจริงในงานเลยก็แล้วกัน

LG Optimus Net
รุ่นนี้น่าจะมาแทน Optimus One ที่ออกมาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว มาถึง Optimus Net ที่อัพเกรดซีพียูมาที่ความเร็ว 800 MHz หน้าจอสัมผัสขนาด 3.2 นิ้ว ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ จำหน่ายเวอร์ชั่นไหนต้องรอลุ้นในกล่อง เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน 3G และ Wi-Fi รองรับโซเชียลเน็ตเวิร์คพร้อม แอพพลิเคชั่นมีให้รอโหลดนับแสนในแอนดรอยด์มาเก็ตไม่แพ้รุ่นใหญ่ ส่วนราคาน่าจะไม่เกินหมื่น หากต้องการเปลี่ยนมาใช้แอนดรอยด์เครื่องแรก LG Optimus Net เป็นอีกรุ่นที่เราแนะนำ

HTC EVO 3D
ในยุคที่อะไรๆ ก็ 3D สมาร์ทโฟนจาก HTC ก็เลยต้องจัด 3D ตามไปด้วยจอแสดงผลแบบ 3D รุ่นแรกขนาดใหญ่ 4.3 นิ้ว พร้อมด้วยอินเตอร์เฟสแบบ HTC Sense ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม น่าใช้งาน เท่านั้นยังไม่พอ ยังอัดกล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซลสำหรับการถ่ายภาพในแบบปกติ และ 2 ล้านพิกเซลในการถ่ายภาพแบบ 3D รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ HD 720p ทั้งในแบบ 2D และ 3D        จัดหนักด้วยหน่วยประมวลผล แบบ Dual core ความเร็วถึง 1.2 GHz มีหน่วยประมวลผลแบบ 3D ช่วยต่างหาก แต่หน่วยความจำภายในมีมาให้น้อยไปหน่อยแค่ 1 GB แต่ก็สามารถเพิ่มได้อีก 32 GB ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ตามสมัยนิยม เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายผ่าน 3G, Wi-Fi ระบบนำทาง GPS เข็มทิศดิจิตอล ใครที่อยากลองของใหม่ด้วยสุดยอดสมาร์ทโฟน 3D รุ่นแรกของ HTC บอกได้เลยว่าห้ามพลาด

HTC Puccini
จาก HTC Flyer แท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว ดูเหมือนจะเล็กไป HTC เลยจัด Puccini แท็บเล็ตขนาด 10.1 นิ้ว ท้าชนทั้ง iPad และ Galaxy Tab 10.1 ด้วยหน่วยประมวลผลความเร็วสูงถึง 1.5 GHz แบบ Dual-core แถมติดปากกาสไตลัสมาให้เหมือนกับ HTC Flyer ให้ขีดๆ เขียนๆ ได้ถนัดหน่อย ตัวเครื่องมาพร้อมแอนดรอยด์ Honeycomb มีกล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล เปิดเพลงฟังได้แบบสเตอริโอด้วยลำโพง 2 ตัวในเครื่อง ส่วนจะมาทันในงานหรือไม่นั้น งานนี้ต้องรอลุ้น

HTC Ruby
ณ เวลาที่กำลังปั่นต้นฉบับมี HTC Ruby รุ่นใหม่ล่าสุด มีภาพหลุดว่อนอินเตอร์เน็ต แหล่งข่าวกล่าวว่าสเป็คตัวเครื่องมีหน่วยประมวลผลความเร็วจี๊ด 1.5 GHz แบบ Dual-core หน้าจอความละเอียด 4.3 นิ้ว กล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายคลิปวิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD ถ้ารุ่นนี้มาทันงาน Thailand Mobile Expo น่าจะเป็นหนึ่งในรุ่นเด่นประจำงานเลยทีเดียว

Motorola MOTOKEY XT EX118
ชื่อรุ่นอาจจะยาวสักหน่อย เอาเป็นว่าเราเรียกเป็น EX118 ก็แล้วกัน เพราะดูเหมือนจะมีรุ่นอื่นที่ใช้ MOTOKEY ออกตามมาอีก สำหรับ Motorola EX118 ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีคีย์บอร์ดแบบ QWERTY มาให้ในตัว แถมยังเป็นจอแบบสัมผัส แตะสั่งงานได้สะดวก หากหวังว่ามันเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์คงต้องคิดผิด เพราะรุ่นนี้ยังไม่แน่ชัดว่าใช้ระบบปฏิบัติการของอะไร เอาเป็นว่าน่าจะเป็นเพียงฟีเจอร์โฟนติดคีย์บอร์ดมาให้ก็แล้วกัน ฟังก์ชั่นการใช้งานก็ไม่มีอะไรมากมาย มีเพียงกล้อง 3 ล้านพิกเซล เครื่องเล่นเพลง วิทยุ FM รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน GPRS/EDGE เท่านั้น ต้องรอดูว่าจะมาทันจำหน่ายในงานหรือไม่ อาจจะมีตัวโชว์ให้ได้ลองกดเล่นกัน

Sony Ericsson Mix Walkman
ห่างหายจากวงการมานาน กลับมาพร้อม Walkman หน้าจอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD 32 GB ให้คุณจุเพลงได้อย่างเต็มที่ มีฟังก์ชั่น SenseMe สำหรับเลือกเล่นเพลงตามอารมณ์ ค้นหาชื่อเพลงด้วยฟังก์ชั่น TrackID ยังคงมีมาให้ครบ นอกจากนี้ก็ยังมีกล้องความละเอียด 3.15 ล้านพิกเซล เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายผ่าน Wi-Fi แต่น่าเสียดายที่รองรับเฉพาะ GPRS/EDGE เท่านั้น เอาเป็นว่าใครที่คิดถึงเครื่องเล่นเพลง Walkman ของ Sony Ericsson ก็จัดรุ่นนี้ไปได้เลย

Sony Ericsson Xperia mini
มีแตกรุ่น Xperia ออกมาหลายต่อหลายรุ่น มาถึง Sony Ericsson Xperia mini กับหน้าจอไซส์มินิ 3.0 นิ้ว และยังใช้เทคโนโลยี Sony Mobile BRAVIA Engine ด้วย ฟังก์ชั่นเด่นๆ ของรุ่นนี้เห็นจะเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 2.3 ทำงานด้วยความเร็ว 1 GHz พร้อมชิพประมวลผลภาพ 3D กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล ระบบออโต้โฟกัส ถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ HD 720p เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายทั้ง 3G, Wi-Fi ระบบนำทาง GPS พร้อมเข็มทิศดิจิตอล หากไม่ชอบสมาร์ทโฟนไซส์ใหญ่ แนะนำแอนดรอยด์ไซส์มินิเครื่องนี้ดู

BlackBerry Bold 9900
สาวกบีบีคงเริ่มอยากจะเปลี่ยนรุ่นใหม่กันแล้วใช่ไหม เพราะนับตั้งแต่ BlackBerry Bold 9700, 9780 ก็ไม่เปลี่ยนรูปแบบอีกเลย มาถึงคราวนี้ BlackBerry Bold 9900 ก็มาพร้อมทั้งหน้าจอสัมผัส และคีย์บอร์ด QWERTY ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวบีบี หน้าจอสัมผัสขนาด 2.8 นิ้วความละเอียดสูง ระบบปฏิบัติการ BlackBerry เวอร์ชั่น 7 ใหม่ล่าสุด กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอความละเอียด HD 720p นอกจากนี้ยังมีหน่วยความจำภายในมาให้ถึง 8 GB เพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB แรงสุดกับหน่วยประมวลผลความเร็วสูงถึง 1.2 GHz เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายครบ ทั้ง 3G, Wi-Fi

BlackBerry Torch 9860
มีไม่น้อยเหมือนกันที่สาวกบีบีชอบหน้าจอแบบสัมผัส BlackBerry Torch 9860 จึงออกมาสานต่อ ด้วยสเป็คที่แรงกว่าเดิมถึง 1.2 GHz บนระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 7 สั่งงานบนหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 3.7 นิ้ว และยังมี Optical Trackpad แถมพ่วงมาให้ด้วย กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซลเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ HD 720p เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายผ่าน 3G ความเร็ว 14.4 Mbps และ Wi-Fi มาตรฐาน b/g/n ส่วนโซเชียลเน็ตเวิร์คก็มีมาให้ครบตามมาตรฐานบีบี รุ่นนี้คาดว่าน่าจะมีตัวโชว์ให้ลองสัมผัสในงาน

BlackBerry Torch 9810
ส่วนใครที่ขาดไม่ได้ทั้งหน้าจอสัมผัส และคีย์บอร์ดคงต้องจัด Torch 9810 มาไว้คู่กาย ด้วยหน้าตาไม่ต่างจากรุ่นเดิมเท่าใดนัก แต่จัดหนักมาด้วยหน่วยประมวลผลความเร็วสูง 1.2 GHz ระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 7 เวอร์ชั่นล่าสุด กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล รองรับมัลติมีเดียครบสมบูรณ์แบบ หากมาทันในงานคงมีเฮแน่ๆ

Acer Iconia Tab A501
มาดูที่ค่ายเอเซอร์กันบ้าง หลังจากที่เปิดตัว และจำหน่าย Acer Iconia Tab A500 ไปแล้ว ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อเฉพาะ Wi-Fi มาถึงงานนี้น่าจะทันจำหน่าย Acer Iconia Tab A501 ที่เพิ่มช่องใส่ซิมการ์ดเพื่อเชื่อมต่อในระบบ 3G ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 10.1 นิ้ว มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 3.0 Honeycomb ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลแบบ Dual core ความเร็ว 1 GHz และชิปประมวลผลภาพ 3D แยกต่างหาก มีหน่วยความจำภายใน 16 หรือ 32 GB ให้เลือก เพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB ส่วนความบันเทิงก็มีกล้องดิจิตอลมาให้ 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส นับว่าเป็นแท็บเล็ตอีกรุ่นที่น่าจับตามอง

Acer Iconia Smart
ผ่านแท็บเล็ตมาแล้วหากคิดว่าใหญ่ไป มาเจอกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ Acer Iconia Smart มีดีตรงที่หน้าจอแสดงผลที่มีขนาดใหญ่ และยาวถึง 4.8 นิ้ว หน่วยประมวลผลความเร็ว 1 GHz ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 2.3 Gingerbread หน่วยความจำภายใน 8 GB เพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB เชื่อมต่อไร้สายความเร็วสูงผ่าน 3G, Wi-Fi ตามแบบฉบับของสมาร์ทโฟนยุคใหม่ ส่วนความบันเทิงก็มีกล้องดิจิตอลมาให้ความละเอียดถึง 8 ล้านพิกเซล ระบบออโต้โฟกัส ถ่ายคลิปวิดีโอความละเอียดระดับ HD 720p หากชอบจอยาวๆ ไว้ดูภาพยนตร์ น่าจะตอบโจทย์ได้ดีพอสมควร


ทุกรุ่นที่มาแนะนำในคอลัมน์นี้เป็นรุ่นใหม่ที่เราคาดการณ์ว่าจะ เปิดตัว หรือวางจำหน่ายในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Showcase ครั้งนี้ ซึ่งบางรุ่นก็อาจจะเปิดจองรอรับเครื่องก่อนใคร สำหรับใครที่กำลังจะซื้อมือถือใหม่อยู่แล้วแนะนำให้คลิกเข้าไปดูโปรโมชั่น เด็ดที่เวบไซต์ www.thailandmobileexpo.com โดยงานครั้งต่อไปจะจัดวันที่ 29 กันยายน – 2 ตุลาคม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่เดิม แล้วพบกันในงานครับ