วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

พีวิวเบา ๆ ไปกับ Plantronics M20 Bluetooth คู่หู ที่อยู่กับคุณทั้งวัน

พีวิวเบา ๆ ไปกับ Plantronics M20 Bluetooth คู่หู ที่อยู่กับคุณทั้งวัน

Plantronics M20
หูฟังบลูทูธที่จะอยู่เป็นเพื่อนสนทนากับคุณได้ตลอดทั้งวัน ด้วยบลูทูธซอฟท์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุด v3.0 ที่เพิ่มประสิทธิภาพการรับส่งสัญญาณและช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ ให้คุณได้รายงานตัวกับเพื่อนฝูงทีมงานจนครบหมดทุกคน แบบยาวนานต่อเนื่องถึง 11 ชั่วโมง พร้อมด้วยคุณภาพเสียงที่คมชัด และระบบเสียงพูดเตือนที่ช่วยให้ชีวิตยึดติด 3G ของคุณสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น
Product Features
  •     Bluetooth Version v3.0 สปีดเร็วขึ้นกว่าเดิม 8 เท่าตัว
  •     คุณภาพเสียงคมชัด ตัดเสียงลม และ ตัดเสียงรบกวนในระบบดิจิตอล
  •     หมดกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดกลางคัน ด้วย Bluetooth Battery Meter บนหน้าจอ iPhone
  •     ระบบเปิด-ปิดแบบ slide switch สะดวกประหยัดพลังงาน
  •     Information Voice alerts ระบบเสียงพูดเตือน ระยะเวลาสนทนา, แบตเตอรี่อ่อน, ระดับเสียงสูงสุด ฯลฯ
  •     อิสระในการเชื่อมต่อสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์บลูทูธหลักได้พร้อมกันถึง 2 อุปกรณ์
  •     สนทนาต่อเนื่อง 11 ชั่วโมง เปิดรอรับสาย 16 วัน
  •     ระบบโทรทวนซ้ำหมายเลขสุดท้าย, ระบบโทรออกด้วยเสียง
  •     รับประกัน 1 ปี
เกริ่นกันมาเยอะละ เราลองไปดูพีวิวเบา ๆ ของ Plantronics M20 กันดีกว่า ส่วนราคานั้น Plantronics M20 เปิดตัวออกมาที่ ราคาเบาๆ เพียง 1,690 บาท
Plantronics M20 นั้นตัวหู ฟังเป็นพลาสติกทั้งตัว น้ำหนักค่อนข้างเบาถูกใจเลยละ (แต่ตัวด้านบนสุดหากมองผ่าน ๆ มันเหมือนแมลงสาบดีนะ) ตัววัสดุดูแข็งแรงทนทานมาก และก็ตามแบบสไตล์หูฟัง Bluetooth ทั่วไปคือ มันไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ภายในได้ การใช้งาน Plantronics M20 นั้นเราสามารถสวมใส่ยัดเข้าไปในรูหูได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าจะหลุด เพราะเมื่อเวลาสวมเข้าในรูหูแล้วจะรู้สึกว่ามันแน่นมาก การออกแบบตัวหูฟังนี้ ทำออกมารับกับสรีระ ของหูผู้ใช้ดีมาก เพราะมีส่วนโค้งเข้ากระชับรูหู ทำให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
ปุ่มใหญ่ด้านซ้ายที่เห็นในภาพคือปุ่มสไลด์ควบคุมการ เปิด/ปิดเครื่อง
ปุ่มใหญ่ด้านขวามือที่เห็นในภาพคือปุ่มควบคุมการทำงานของระดับเสียง
มีอุปกรณ์ต่อพ่วงคือช่องต่อ Micro USB
ด้านท้ายตัวหูฟังจะเป็นรูหรับต่อที่ชาร์จแบตเตอรี่ (อุปกรณ์ต่อพ่วงคือช่องต่อ Micro USB) ซึ่งการชาร์จหนึ่งครั้งหากชาร์จเต็มหูฟังนี้ จะใช้งาน สนทนาต่อเนื่อง 11 ชั่วโมง เปิดรอรับสาย 16 วันแต่จากการทดสอบ ยังไม่เคยคุยได้นานต่อเนื่องจนหมดแบตเตอรี่สักครั้ง
ตัว Ear Bud ในรุ่นนี้จะค่อนข้างกระชับมากแม้หูแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน แต่ความรู้สึกในการสวมใส่ลองคุยเป็น ชั่วโมงก็ไม่รู้สึกว่ามันจะทำให้เกิดความรำคาญหรือเจ็บหูแต่อย่างใด ตัวซิลิโคนทำมาค่อนข้างนุ่มดี อันนี้คอนเฟริมเลยว่ารับรองใส่นานๆไม่เจ็บหูแน่นอน เพราะผมเองเคยมีประสบการณ์ในการทดสอบตัวหูฟังมาหลายรุ่น บางรุ่นคุณภาพตัวเครื่องดีมากแต่ใส่สัก 5 นาทีก็รู้สึกว่าเจ็บหูซะแล้ว
ในตำแหน่งของหูฟังจะมียางครอบป้องกันอันตรายต่อใบหูของเรา ส่วนสายคล้องหูนั้น ที่จริงไม่ต้องมามาก็ได้ (แต่อาจเตรียมพร้อมสำหรับใครที่กลัวว่ามันจะหลุดเวลาใช้งาน)เพราะน้ำหนักหู ฟังรุ่นนี้เบามากเลยทำให้ไม่รู้สึกหนักเวลาสวมใส่
การเริ่มจับคู่อุปกรณ์สามารถทำได้โดย กดปุ่มรับสายค้างไว้สัก 5-10 วินาที (กรณีนี้ขึ้นกับความสนัดของผู้ใช้งาน แต่ถ้าครั้งแรกทำได้ ครั้งต่อไปก็ง่ายขึ้นเหมือนรู้มือ) จนกว่าไฟจะแสดงสลับเป็นสี น้ำเงินและแดงสลับกัน หายคนกำลัง "งง" แน่นอนว่าปุ่มที่ว่านั้นอยู่ตรงไหน ปุ่มที่ว่านั้นจะอยู่ด้านบนตัวเครื่อง ที่ตรงตำแหน่งตัวสกรีนคำว่า  Plantronics
ในเครื่อง iPhone (กรณีนี้ใช้เครื่องไอโฟน 4 ในการทดสอบ)ให้ไปที่ Settings>> General>> bluetooth
สำหรับ Plantronics M20  ตัวนี้ทดลองใช้กับ iPhone การเชื่อมต่อทำงานได้ง่ายมาก เพราะไม่ต้องทำไรเพิ่มเติ่มเลย เปิดเครื่องให้มันมองเห็นกันก็ Connected ใช้งานได้เลย (สำหรับถ้าเครื่องรุ่นไหนถามหารหัสผ่านให้ใส่ 0000)
สรุปการใช้งาน
จากการทดสอบ Plantronics M20 นี้ ความรู้สึกส่วนตัวค่อนข้างชอบมันมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัสดุที่ใช้ หรือที่เด็ดคือด้วยน้ำ้หนักที่มีขนาดค้อนข้างเบา สำหรับสาว ๆ ช่วงแรก ๆ อาจจะใส่อยากหน่อย แต่ถ้าได้ทดลองใส่สัก 3-2 จะหลงรัก Plantronics M20 แน่นอน
สรุปโดยรวมๆแล้วหากจะซื้อหูฟัง Bluetooth ก็ขอแนะนำว่าให้ซื้อแบบมียี่ห้อหน่อยก็ดีนะ ไม่จำเป็นต้องเป็นยี่ห้อนี้ก็ได้ แต่อยากให้มองในระยะยาวยี่ห้อโนเนมบางตัวทดลอง หรือนำมาใช้งานระยะแรกประสิทธิภาพเทพมาก แต่ใช้ไปนาน ๆ เจอปัญหากวนใจมากมาย แบตเสื่อม พาสติกหนึบ ขายึดหัก เป็นต้น เลือกของมียี่ห้อหน่อยก็ดีนะสินค้าไอที แล้วเจอกันกับพีวิวรุ่นต่อไป!!
ขอขอบคุณ บริษัท System2000  สำหรับอุปกรณ์ในการทดสอบ

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

พีวิวเบา ๆ ไปกับ Plantronics M20 Bluetooth คู่หู ที่อยู่กับคุณทั้งวัน

 พีวิวเบา ๆ ไปกับ Plantronics M20 Bluetooth คู่หู ที่อยู่กับคุณทั้งวัน

Plantronics M20
หูฟังบลูทูธที่จะอยู่เป็นเพื่อนสนทนากับคุณได้ตลอดทั้งวัน ด้วยบลูทูธซอฟท์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุด v3.0 ที่เพิ่มประสิทธิภาพการรับส่งสัญญาณและช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ ให้คุณได้รายงานตัวกับเพื่อนฝูงทีมงานจนครบหมดทุกคน แบบยาวนานต่อเนื่องถึง 11 ชั่วโมง พร้อมด้วยคุณภาพเสียงที่คมชัด และระบบเสียงพูดเตือนที่ช่วยให้ชีวิตยึดติด 3G ของคุณสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น
Product Features
  •     Bluetooth Version v3.0 สปีดเร็วขึ้นกว่าเดิม 8 เท่าตัว
  •     คุณภาพเสียงคมชัด ตัดเสียงลม และ ตัดเสียงรบกวนในระบบดิจิตอล
  •     หมดกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดกลางคัน ด้วย Bluetooth Battery Meter บนหน้าจอ iPhone
  •     ระบบเปิด-ปิดแบบ slide switch สะดวกประหยัดพลังงาน
  •     Information Voice alerts ระบบเสียงพูดเตือน ระยะเวลาสนทนา, แบตเตอรี่อ่อน, ระดับเสียงสูงสุด ฯลฯ
  •     อิสระในการเชื่อมต่อสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์บลูทูธหลักได้พร้อมกันถึง 2 อุปกรณ์
  •     สนทนาต่อเนื่อง 11 ชั่วโมง เปิดรอรับสาย 16 วัน
  •     ระบบโทรทวนซ้ำหมายเลขสุดท้าย, ระบบโทรออกด้วยเสียง
  •     รับประกัน 1 ปี
เกริ่นกันมาเยอะละ เราลองไปดูพีวิวเบา ๆ ของ Plantronics M20 กันดีกว่า ส่วนราคานั้น Plantronics M20 เปิดตัวออกมาที่ ราคาเบาๆ เพียง 1,690 บาท
Plantronics M20 นั้นตัวหู ฟังเป็นพลาสติกทั้งตัว น้ำหนักค่อนข้างเบาถูกใจเลยละ (แต่ตัวด้านบนสุดหากมองผ่าน ๆ มันเหมือนแมลงสาบดีนะ) ตัววัสดุดูแข็งแรงทนทานมาก และก็ตามแบบสไตล์หูฟัง Bluetooth ทั่วไปคือ มันไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ภายในได้ การใช้งาน Plantronics M20 นั้นเราสามารถสวมใส่ยัดเข้าไปในรูหูได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าจะหลุด เพราะเมื่อเวลาสวมเข้าในรูหูแล้วจะรู้สึกว่ามันแน่นมาก การออกแบบตัวหูฟังนี้ ทำออกมารับกับสรีระ ของหูผู้ใช้ดีมาก เพราะมีส่วนโค้งเข้ากระชับรูหู ทำให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
ปุ่มใหญ่ด้านซ้ายที่เห็นในภาพคือปุ่มสไลด์ควบคุมการ เปิด/ปิดเครื่อง
ปุ่มใหญ่ด้านขวามือที่เห็นในภาพคือปุ่มควบคุมการทำงานของระดับเสียง
มีอุปกรณ์ต่อพ่วงคือช่องต่อ Micro USB
ด้านท้ายตัวหูฟังจะเป็นรูหรับต่อที่ชาร์จแบตเตอรี่ (อุปกรณ์ต่อพ่วงคือช่องต่อ Micro USB) ซึ่งการชาร์จหนึ่งครั้งหากชาร์จเต็มหูฟังนี้ จะใช้งาน สนทนาต่อเนื่อง 11 ชั่วโมง เปิดรอรับสาย 16 วันแต่จากการทดสอบ ยังไม่เคยคุยได้นานต่อเนื่องจนหมดแบตเตอรี่สักครั้ง
ตัว Ear Bud ในรุ่นนี้จะค่อนข้างกระชับมากแม้หูแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน แต่ความรู้สึกในการสวมใส่ลองคุยเป็น ชั่วโมงก็ไม่รู้สึกว่ามันจะทำให้เกิดความรำคาญหรือเจ็บหูแต่อย่างใด ตัวซิลิโคนทำมาค่อนข้างนุ่มดี อันนี้คอนเฟริมเลยว่ารับรองใส่นานๆไม่เจ็บหูแน่นอน เพราะผมเองเคยมีประสบการณ์ในการทดสอบตัวหูฟังมาหลายรุ่น บางรุ่นคุณภาพตัวเครื่องดีมากแต่ใส่สัก 5 นาทีก็รู้สึกว่าเจ็บหูซะแล้ว
ในตำแหน่งของหูฟังจะมียางครอบป้องกันอันตรายต่อใบหูของเรา ส่วนสายคล้องหูนั้น ที่จริงไม่ต้องมามาก็ได้ (แต่อาจเตรียมพร้อมสำหรับใครที่กลัวว่ามันจะหลุดเวลาใช้งาน)เพราะน้ำหนักหู ฟังรุ่นนี้เบามากเลยทำให้ไม่รู้สึกหนักเวลาสวมใส่
การเริ่มจับคู่อุปกรณ์สามารถทำได้โดย กดปุ่มรับสายค้างไว้สัก 5-10 วินาที (กรณีนี้ขึ้นกับความสนัดของผู้ใช้งาน แต่ถ้าครั้งแรกทำได้ ครั้งต่อไปก็ง่ายขึ้นเหมือนรู้มือ) จนกว่าไฟจะแสดงสลับเป็นสี น้ำเงินและแดงสลับกัน หายคนกำลัง "งง" แน่นอนว่าปุ่มที่ว่านั้นอยู่ตรงไหน ปุ่มที่ว่านั้นจะอยู่ด้านบนตัวเครื่อง ที่ตรงตำแหน่งตัวสกรีนคำว่า  Plantronics
ในเครื่อง iPhone (กรณีนี้ใช้เครื่องไอโฟน 4 ในการทดสอบ)ให้ไปที่ Settings>> General>> bluetooth
สำหรับ Plantronics M20  ตัวนี้ทดลองใช้กับ iPhone การเชื่อมต่อทำงานได้ง่ายมาก เพราะไม่ต้องทำไรเพิ่มเติ่มเลย เปิดเครื่องให้มันมองเห็นกันก็ Connected ใช้งานได้เลย (สำหรับถ้าเครื่องรุ่นไหนถามหารหัสผ่านให้ใส่ 0000)
สรุปการใช้งาน
จากการทดสอบ Plantronics M20 นี้ ความรู้สึกส่วนตัวค่อนข้างชอบมันมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัสดุที่ใช้ หรือที่เด็ดคือด้วยน้ำ้หนักที่มีขนาดค้อนข้างเบา สำหรับสาว ๆ ช่วงแรก ๆ อาจจะใส่อยากหน่อย แต่ถ้าได้ทดลองใส่สัก 3-2 จะหลงรัก Plantronics M20 แน่นอน
สรุปโดยรวมๆแล้วหากจะซื้อหูฟัง Bluetooth ก็ขอแนะนำว่าให้ซื้อแบบมียี่ห้อหน่อยก็ดีนะ ไม่จำเป็นต้องเป็นยี่ห้อนี้ก็ได้ แต่อยากให้มองในระยะยาวยี่ห้อโนเนมบางตัวทดลอง หรือนำมาใช้งานระยะแรกประสิทธิภาพเทพมาก แต่ใช้ไปนาน ๆ เจอปัญหากวนใจมากมาย แบตเสื่อม พาสติกหนึบ ขายึดหัก เป็นต้น เลือกของมียี่ห้อหน่อยก็ดีนะสินค้าไอที แล้วเจอกันกับพีวิวรุ่นต่อไป!!
ขอขอบคุณ บริษัท System2000  สำหรับอุปกรณ์ในการทดสอบ

วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

ประสบการณ์หลัง ใช้งาน TRUE-H 3G

ประสบการณ์หลัง ใช้งาน TRUE-H 3G

หลังเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางทีมงานได้มีโอกาศเดินทางไปร่วมงานเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในขื่อชื่อ True Move H และมี(ของค่าย True )ตัวอักษรย่อยด้านล่างว่า CAT’s retailer เพื่อต่อยอดในการให้บริการ 3G HSPA เชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก ซึ่งสามารถใช้งานได้ในกรุ กรุงเทพฯ และอีก 16 จังหวัด




สำหรับเขตพื้นที่บริการ ที่ทาง TRUE-H  โชว์จุดเด่นสุดคือ 3G+  ความถี่ 850MHz โดยบริการให้ความเร็วระดับ HSPA+ ซึ่งสามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 42 Mbps  ครอบ คลุมทั่วทั้งกรุงเทพ (มีเครือข่าย3G กว่า 1770 เสา ทั่วกรุงเทพ)  และอีก 16 จังหวัดในบางเมืองของแต่ละจังหวัด  ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ อยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร ชลบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี เชียงใหม่ สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และกระบี่

ผลจากการได้ทดลองใช้เวลาเล่น TRUE-H 3G ในช่วงที่ผ่านมา (บริเวณกรุงเทพ) นับได้ว่าประทับใจผู้เขียนมาก

สามารถเล่นได้ทั้งที่บ้าน ย่านวัชรพล ซึ่งปกติผู้เขียนใช้ระบบ EAGE  เพราะสัญญาณของ 3G  ค่ายน้องอุ่นใจไปไม่ถึง  ปรากฎว่าแค่ก้าวข้ามกำแพงบ้านก็ไม่สามารถเล่นได้แล้ว  (จุดนี้  TRUE-H 3G ได้ใจไปเลย )

เอาเป็นว่าไปทดลองกันอีกที่ดีกว่า ตลาดนัดจตุจัต เด็ดสุดใจกลางเมืองเลย เพราะฉะนั้นเราจัดเลย 3 ค่ายใหญ่มาชนกันหน่อย (เล่นบนไอโฟน 4) ผลออกมาเจ็บครับ เพราะเบอร์ที่ผู้เขียนจ่ายเงินให้เดือนละ 839 ไม่รวมภาษีเล่นได้ห่วยที่สุดในสามโลก หมุนทั้งวัน ส่วนค่ายที่เค้าบอกว่าเป็นต่างด้าว ก็พอไหวนะ เล่นได้ ไม่เร็วมากแต่ก็ไม่ถึงกับทำให้ไมเกรนขึ้นเนื่องจากหมุนทั้งวัน ส่วนเจ้า TRUE-H 3G เด็ดสุด ดู youtube ได้เลยละ

คิดเอาเองละกัน ตอนนี้ผู้เขียนยังใช้ซิมทดลองของ  TRUE-H 3G  อยากทราบอะไรเพิ่มเติมสอบถามกันมาได้นะ

ปล. อยากจะบอกว่า บทความไม่ได้ตั้งใจชื่นชม TRUE-H 3G  ให้คุณเชื่อ แต่มันมาจากการใช้งานจริง ๆ ซึ่งทดลองมาแล้ว เลยอยากเอามาแชร์ให้เพื่อน ๆ ฟังกัน

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

Sanook! Mobile เปิดตัว Browser สุดเจ๋งในชื่อ Sanook! Browser

Sanook! Mobile  เปิดตัว Browser สุดเจ๋งในชื่อ Sanook! Browser
วันนี้ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการสักทีสำหรับ Browser ตัวใหม่ล่าสุดของทางทีมงาน Sanook! Mobile นั้นคือ Sanook! Browser (สนุก! เบราว์เซอร์) ที่ขอบอกว่าเจ๋งและอยากแนะนำ รับรองได้โดนแน่นอน ดังนั้นทางทีมงาน Hitech จึงขอเขียนถึง Browser ตัวใหม่ล่าสุดนี้กันหน่อย
Sanook! Browser
ทั้งนี้ Sanook! ได้เผยข้อมูลว่า Sanook! Browser (สนุก! เบราว์เซอร์) พร้อมมอบประสบการณ์การท่องเว็บที่เร็วกว่า ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการท่องอินเตอร์เน็ตได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยค้นหาข่าวสาร และข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจ อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
Sanook! Browser (สนุก! เบราว์เซอร์) นั้นมาพร้อมกับความสามารถเยอะแยะจนอธิบายไม่ถูก  แต่ที่ทางทีมงานลองเล่นและรู้สึกชอบมากที่สุดคงจะเป็นเรื่อง จัดวางเมนู ไอคอน ทำให้เข้าถึงเมนูได้ง่าย รวมถึงการบันทึกประวัติการใช้งาน อีกทั้ง สนุก!เบราเซอร์ ได้สรรหาบุ๊คมาร์คที่น่าสนใจมาให้คุณ ทำให้คุณสามารถท่องเว็บต่างๆ ได้ง่าย เพียงแค่คลิก และยังสามารถดาวน์โหลดไฟล์เก็บไว้ได้ ยังมีความสามารถอื่นๆ อีกมากมาย ที่ทำให้มือถือของคุณสามารถท่องเว็บได้อย่างสะดวกสบาย ให้คุณตามทันทุกสถานการณ์

ซึ่งประกอบไปด้วย Most Visited, Daily Life, Chat & Community, News,Entertainment, Sport, VDO & MediaSharing, Auto & Technology, Shoppong & Classified, Fanance & Banking และปิดท้ายด้วย Downlad ใครชอบเรื่องไหน เข้าไปอ่านได้เลย ไม่ต้องมาพิมพ์ url ให้วุ่นวายอีกต่อไป
เปิดหน้าต่างได้มากกว่า
จุดเด่นอีกอย่างคือสามารถแสดงหน้าต่างแบบย่อได้ 4 หน้าต่างภายในหน้าจอเดียว และสามารถเปิดได้สูงสุดถึง 32 หน้าต่าง ทำให้คุณสลับดูหน้าเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดายเหมือนกับท่องเว็บด้วยเครื่อง คอมพิวเตอร์ ทำให้คุณเปิดเว็บไซต์ได้ตามใจชอบ และเปลี่ยนไปยังเว็บไซต์ที่ต้องการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
การแสดงผลในที่มืด
การออกแบบที่เหมาะสมกับการใช้งานในที่มืด แม้คุณจะอยู่ในช่วงกลางคืนหรือที่ที่มีแสงน้อยก็สามารถใช้งานได้ด้วยแสงของ หน้าจอที่เหมาะสม ทำให้อ่านได้อย่างสบายตา ที่ทำให้ใครหลาย ๆ สามารถเปิดเครื่องเล่นได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแสงของไอโฟนจะไปรบกวนใคร!!
ดาวน์โหลด และการจัดเก็บเอกสารได้อย่างยอดเยี่ยม
ด้วย สนุก! เบราเซอร์ มีตัวช่วยในการจัดการการดาวน์โหลด ในเวลาที่คุณต้องการหยุดการดาวน์โหลด คุณก็สามารถหยุดได้ทันที และกลับมาดาวน์โหลดต่อได้ ช่วยให้คุณไม่ต้องกลับมาโหลดไฟล์ใหม่ทุกครั้งที่หลุดจากการเชื่อมต่อ
สามารถจัดการไฟล์ได้หลากหลาย
รองรับการดาวน์โหลดไฟล์ได้หลากหลายประเภท โดยสามารถ เปิดดู แก้ไข ลบหรือดาวน์โหลดเพิ่มเติม รวมถึงการล้างไฟล์เก่าทิ้งด้วย
1.เพื่อนๆ คนไหนสนใจ Download ได้ตาม link ข้างล่างเลยครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

เพื่อนๆ ที่ใช้ iPhone สามารถเข้าไป Download ได้ที่ Appstore แล้ว
ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนใช้ระบบ Android  สามารถเข้าไปโหลดกันได้ที่ Android Market กันได้เลยครับ

2. สามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ mobile.sanook.com/browser
เพียงเท่านี้คุณก็จะ “สนุก!” กันได้ทั้งวัน กับ Sanook! Browser (สนุก! เบราว์เซอร์) เทรนด์ใหม่ที่ทำให้ iPhone ของคุณมีชีวิตชีวาขึ้น แล้วคุณจะอยู่บนโลกอันแสนสนุกได้อย่างไม่มีเบื่อเลยทีเดียว แถมประหยัดค่าแพคเกจอินเตอร์เน็ต ด้วยเทคโนโลยีการบีบอัดข้อมูล และบุ๊คมาร์คเว็บไซต์สุดฮิตที่เ ตรียมไว้ให้คุณ อยากเข้าเว็บไหนก็ง่ายๆ แค่คลิก!
สามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ mobile.sanook.com

บทความโดย : GuruMobile @Sanook

HTC EVO 3D คลอดแล้วในเมืองไทย

HTC EVO 3D คลอดแล้วในเมืองไทย
วันนี้ทาง HTC ไทยทำการเปิดตัว  HTC EVO 3D  อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่ง HTC EVO 3D จะมาพร้อมรองรับเครือข่าย GSM

จุดเด่นของ  HTC EVO 3D นั้นเป็นรุ่นเดียวกับ Pyramid แต่รองรับเทคโนโลยี 3 มิติ ส่วน Spec อื่นๆของ HTC EVO 3D ก็คือ CPU Dual-Core 1.2 GHz และมี RAM 1GB พร้อมรัน Android 2.3

Gingerbread พร้อม HTC Sense ตัวเครื่องมีสัดส่วน 126x65x12.05 มม. และพกแบตมาขนาดใหญ่พอควรที่ 1730 mAh น้ำหนัก 170 กรัม แถมด้วย Port MHL (รวมทั้ง HDMI และ USB ไว้ด้วยกัน) มี Wi-Fi b/g/n, Bluetooth 3.0, รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ MicroSD Card

ซึ่งว่านับเป็นของใหม่ที่น่าสนใจสำหรับบ้านเรา เพราะปัจจุบันนั้นมือถือ 3D ซึ่งมีวางจำหน่ายในตลาดอย่างเป็นทางการนั้นมีแค่  LG Optimus 3D และอีกรุ่นก็คือ  HTC EVO 3D ซึ่งกำลังจะวางขายอย่างเป็นทางการในบ้านเราวันนี้ (8 กันยายน 2554)

HTC EVO 3D 3D view - 360° spin
ส่วนในเรื่องของราคาของ HTC EVO 3D นั้นคาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 19,900 บาท  (อ้างอิงจาก www.thaimobilecenter.com)

บทความโดย : GuruMobile @Sanook

วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

iPhone 5 ถูกเปิดให้จองอย่างลับ ๆ แล้ว

iPhone 5  ถูกเปิดให้จองอย่างลับ ๆ แล้ว

แม้จะมีสัญญาณหลายอย่างเกี่ยวกับ iPhone 5 ออกมาตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาก และคงไม่มีข่าวไหนน่าสนใจเท่ากับข่าวนี้อีกแล้ว

iPhone 5
ล่าสุดนั้นมีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ออกมาให้ข่าวว่าตอนนี้นั้น  T – Mobile ของประเทศเยอรมันได้เปิดให้ลูกค้ากลุ่มพิเศษจองเครื่องแล้ว โดยออกมาในรูปแบบของการให้ตั๋วเพื่อให้ลูกค้าถือไว้ และสามารถนำมารับเครื่องได้เลย

ซึ่งตัวเหล่านี้จะเสนอแก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้าน แต่ไมต้องการเครื่อง iPhone 3GS หรือ iPhone 4 และนอกจากนี้ทางทีมงานของแอปเปิ้ลได้เริ่มเทรนพนักงานเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียม ความพร้อมในเรื่องการปล่อย IOS 5 และ iCloud (ซึ่งวิธีแบบนี้บ้านเราก็ทำเหมือนกัน)

ในช่วงสุดสัปดาห์คาดว่าอุปกรณ์ที่จะเปิดตัวในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมคงจะมีข่าวหลุด ๆ ออกมาให้เราติดตามเรื่อย ๆ แน่นนอน
ที่มา : hitech.sanook.com